Acoustic problem อย่าปล่อยให้ปัญหาเสียงกัดกินความสุขของคุณ

หลายท่านเข้ามาปรึกษาเรา เจอปัญหาเสียงรบกวน จนทนไม่ไหว ใช้ชีวิตไม่มีความสุข อยากสร้างห้องเก็บเสียง แน่นอนถ้าไม่อยากย้ายบ้านหนี เพื่อนบ้านส่งเสียงดังกลางคืน จัดปาร์ตี้ เดินเสียงดัง ทะเลาะกัน เปิดเพลงดัง เด็กเล็กร้องไห้ เสียงการจราจรรถยนต์ งานก่อสร้าง โรงงานอุตสาหกรรม “ปัญหาเสียงดัง” ที่ทั้งจากห้องเราเองไปรบกวนคนอื่น และห้องคนอื่นมารบกวนเรา เพราะทุกคนหันมาอยู่บ้านกันมากขึ้น จึงเลี่ยงไม่ได้ที่เสียงดังจะมีมากขึ้น เสียงที่ดังเกินไปไม่เพียงแต่สร้างความรำคาญอย่างเดียว แต่ยังอาจส่งผลกระทบต่อส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย จนอาจทำให้สูญเสียการได้ยิน หรือเสี่ยงต่อโรคร้ายแรงบางชนิดได้ ปัญหาเสียงหลักๆ ที่ส่งผลเสียต่อการทำงานในบ้านนั้น ได้แก่ ปัญหาเสียงดัง เสียงก้อง และเสียงสะท้อน มาติดตามกัน Acoustic problem อย่าปล่อยให้ปัญหาเสียงกัดกินความสุขของคุณ

ผลกระทบจากปัญหาเสียงดัง อันตรายกว่าที่คุณคิด?

  1. ผลกระทบต่อการได้ยิน ในหูของคนเราจะมีเส้นขนจำนวนมากทำหน้าที่รับเสียงและแปลงเป็นสัญญาณไฟฟ้าส่งไปยังสมอง ซึ่งเสียงที่ดังเกินไปจะทำให้เส้นขนเหล่านั้นได้รับความเสียหาย จึงทำให้มีปัญหาในการได้ยิน นอกจากนี้ การได้ยินเสียงดังติดต่อกันเป็นเวลานานยังอาจทำให้เกิดโรคประสาทหูเสื่อมจากการทำงาน หรือถึงขั้นทำให้หูหนวกได้
  2. ผลกระทบต่อการนอน เสียงที่ดังเกินไปจะกระตุ้นสมองให้ตื่นตัวอยู่ตลอดเวลา จึงรู้สึกไม่ผ่อนคลายจนอาจทำให้นอนไม่หลับและส่งผลให้ง่วงระหว่างวันได้ อีกทั้งการพักผ่อนไม่เพียงพอติดต่อกันเป็นเวลานานยังเพิ่มความเสี่ยงต่อโรคร้ายแรงอีกหลายชนิด เช่น โรคเบาหวาน หรือโรคหัวใจ เป็นต้น
  3. ส่งผลต่อระบบภูมิคุ้มกัน เสียงที่ดังเกินไปนั้นส่งผลให้ร่างกายหลั่งฮอร์โมนความเครียดออกมา ซึ่งฮอร์โมนประเภทนี้จะทำให้ระดับภูมิคุ้มกันของร่างกายต่ำลง จึงเสี่ยงต่อการติดเชื้อแบคทีเรียหรือไวรัสชนิดต่าง ๆ มากขึ้น จนอาจนำไปสู่การเจ็บป่วยได้
  4. ผลกระทบต่อสมาธิและอารมณ์ความรู้สึก การที่ต้องอยู่ในสถานที่ที่มีเสียงรบกวนอาจทำให้เกิดผลกระทบต่อการใช้สมาธิหรืออารมณ์ความรู้สึกได้ หากต้องนั่งทำงานในห้องที่มีเสียงดังตลอดเวลา คงใช้สมาธิได้ไม่เต็มที่และไม่มีความสุขเท่าใดนัก อีกทั้งเสียงดังยังทำให้ผู้ที่มีความเครียดหรือความกังวลใจอยู่แล้วมีอาการหนักไปกว่าเดิมได้ด้วย
  5. ผลกระทบต่อสมอง มีการศึกษาจากผู้เชี่ยวชาญพบว่า เสียงที่ดังเกินไปจะทำให้ปลายประสาทที่ส่งสัญญาณไฟฟ้าจากเซลล์รับเสียงภายในหูไปสู่สมองนั้นเกิดความเสียหาย จนอาจทำให้สมองเกิดการอักเสบ และการสูญเสียการได้ยินจากเสียงที่ดังเกินไปนั้นก็อาจนำไปสู่โรคสมองเสื่อมได้
  6. ผลกระทบต่อทารกในครรภ์ นอกจากเสียงดังจะมีผลกระทบต่อผู้ที่ได้ยินแล้ว ยังอาจส่งผลต่อทารกที่อยู่ในครรภ์ได้อีกด้วยถึงแม้มารดาจะใส่เครื่องป้องกันเสียงแล้วก็ตาม ดังนั้น หากกำลังตั้งครรภ์อยู่ก็ควรหลีกเลี่ยงสถานที่ที่มีเสียงดังด้วย

นอกจากนี้หากประกอบอาชีพที่ต้องทำงานเกี่ยวกับเสียง หรือสถานที่ทำงานมีเสียงดังตลอดเวลา ควรเข้ารับการตรวจเพื่อประเมินการได้ยินเป็นระยะ รวมทั้งหากรู้สึกได้ยินเสียงไม่ชัดเจน หรือมีความผิดปกติต่าง ๆ เกิดขึ้นกับการได้ยิน ควรไปพบแพทย์เพื่อเข้ารับการตรวจรักษาอย่างถูกต้อง

สร้างห้องเก็บเสียง ชีวิตของคุณจะมีความสุขมากขึ้น

  1. ทำให้นอนหลับพักผ่อนได้อย่างเต็มที่มากขึ้น หลาย ๆ คนถูกเสียงดังรบกวนจนทำให้นอนไม่หลับ หลับไม่สนิท จนสุขภาพกายสุขภาพจิตทรุดโทรมลงเรื่อย ๆ การเลือกทำให้ห้องนอนที่บ้านกลายเป็นห้องเก็บเสียง จะช่วยทำให้ห้องนอนป้องกันเสียงรบกวนจากภายนอกได้ดีขึ้น กักเก็บความสงบเงียบเอาไว้ได้ดี จนทำให้นอนหลับสบายขึ้น สุขภาพกายใจดีขึ้นเรื่อย ๆ
  2. ทำให้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น แทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่จะWork From Home ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ถ้าตลอดเวลาเช้า กลางวัน เย็น กลางคืน ต้องเจอเสียงรบกวนจากเพื่อนบ้านข้างห้องตลอดเวลาไม่ว่างเว้น ดังนั้น การเสริมผนังกันเสียงในห้องทำงาน หรือห้องนอนให้กลายเป็นห้องเก็บเสียง จึงทำให้วิถีชีวิตแบบ New Normal เข้าที่เข้าทางได้อย่างที่ควรจะเป็น คือทำให้เราทำงานได้อย่างมีสมาธิ ไร้เสียงรบกวน สื่อสารประชุมออนไลน์ ไลฟ์ขายของ อัดวีดีโอได้อย่างมีประสิทธิภาพ เกิดเป็นผลงานคุณภาพที่ช่วยส่งเสริมให้ชีวิตก้าวหน้าได้มากขึ้น
  3. ทำกิจกรรมที่ใช้เสียงดังได้อย่างเต็มที่ สำหรับใครที่เพื่อนเยอะ หรือบ้านเป็นครอบครัวใหญ่ ชอบสังสรรค์ปาร์ตี้เป็นประจำ หรือ บางคนที่ชอบซ้อมดนตรี ดูซีรี่ย์จอใหญ่เปิดเสียงดัง ๆ ฯลฯ การทำสักห้องหนึ่ง หรือพื้นที่หนึ่งในบ้านให้กลายเป็นห้องเก็บเสียงถือว่าตอบโจทย์มาก ๆ เพื่อให้เราสามารถกันเสียงดังจากห้องเราไม่ให้ทะลุออกไปนอกห้อง รบกวนคนอื่น ซึ่งพอไม่ต้องห่วงเรื่องเสียงดังรบกวนใครแล้ว เราก็เหมือนได้ใช้ชีวิตอย่างเต็มที่มากขึ้น และมีความสุขได้มากขึ้นในทุก ๆ วัน
  4. จบปัญหาทะเลาะกับเพื่อนข้างบ้านเรื่องเสียงดัง ไม่ว่าจะเป็นการอยู่อาศัยแบบหมู่บ้านทาวน์โฮมทาวน์เฮาส์ หรือจะเป็นคอนโดที่ผนังห้องติดกัน หนึ่งในปัญหาโลกแตกที่ทำให้เรามีปากมีเสียงกับเพื่อนข้างบ้านได้ตลอดปีตลอดชาติก็คือ “ปัญหาเสียงดัง” ที่ไม่เราเสียงดังไปกวนเขา ก็เขาเสียงดังมากวนเรา เสียงลูกร้องบ้าง เสียงทะเลาะกันบ้าง เสียงปาร์ตี้บ้าง เสียงสุนัขเห่าบ้าง ฯลฯ

สร้างห้องเก็บเสียงต้องเข้าใจวัสดุ

วัสดุกันเสียง (Sound insulation)

วัสดุที่มีคุณสมบัติในการ “กั้นเสียง” ไม่ให้ทะลุผ่านจากห้องหนึ่งไปยังอีกห้องหนึ่ง หรือกั้นเพื่อไม่ให้เสียงรบกวนจากภายนอกเข้ามายังภายในห้องได้ รวมไปถึงการกั้นเสียงจากภายในไม่ให้ออกไปภายนอกด้วย ทั้งนี้ วัสดุกันเสียงส่วนใหญ่จะใช้กับผนัง เช่น ฉนวนกันเสียง ที่สามารถใช้ได้กับทั้งผนังแบบก่ออิฐ และผนังโครงเบา หรือสามารถติดบนฝ้าเพดานก็ได้

วัสดุดูดซับเสียง  (Sound Absorbtion)

วัสดุที่มีคุณสมบัติในการ “ลดเสียงก้อง” และ “ลดเสียงสะท้อน” ภายในห้องที่อาจรบกวนการทำกิจกรรมต่าง ๆ ภายในห้อง วัสดุดูดซับเสียงมีทั้งสำหรับผนัง ฝ้าเพดาน และแบบปูพื้น โดยผนังดูดซับเสียง จะเป็นแผ่นบุที่หุ้มด้วยผ้าชนิดพิเศษเคลือบสารไม่ลามไฟ หรือหุ้มด้วยผ้าใยแก้วพิเศษ ส่วนแผ่นฝ้าดูดซับเสียงนั้น โดยมากจะเป็นแผ่นฝ้ากลาสวูดหรือแผ่นฝ้ายิปซัม และสุดท้ายสำหรับพื้นดูดซับเสียง มักนิยมใช้เป็นพรมอัดชนิดลูกฟูก

ตัวอย่างห้องเก็บเสียง : https://www.nextplus.co.th/our-services#soundproof

ห้องไหนในบ้านควรเป็นห้องเก็บเสียง

  • ห้องนอนห้องที่ต้องการความสงบ เพื่อการพักผ่อนอย่างเต็มที่ ควรติดตั้งฉนวนดูดซับเสียงผนังบริเวณหัวนอนซึ่งเป็นจุดตรงข้ามกับแหล่งกำเนิดเสียง เพื่อลดเสียงสะท้อน และเป็นการเพิ่มจุดสนใจให้กับห้อง โดยอาจใช้ฉนวนรูปสีเหลี่ยมจัตุรัส จัดเรียงสลับสีกันให้เกิดเป็นลวดลายมีดีไซน์ โทนสีที่เหมาะกับห้องนอน
  • ห้องนั่งเล่นเนื่องจากเป็นห้องที่มีปริมาณการใช้เสียงสูงกว่าห้องนอน เพราะมักเป็นห้องศูนย์รวมของสมาชิกภายในบ้าน เพื่อใช้ทำกิจกรรมยามว่างร่วมกัน อย่างดูทีวี ฟังเพลง หรือจัดกิจกรรมที่ส่งเสียงดัง จึงแนะนำ ให้ทำห้องเก็บเสียงติดตั้งฉนวนป้องกันเสียงเพื่อป้องกันเสียงรบกวน จากนั้นติดตั้งฉนวนดูดซับเสียงประมาณ 35% ของพื้นที่ผนังทั้ง 4 ด้าน เพื่อลดเสียงสะท้อนและดูดซับสียงภายในห้องไม่ให้ออกไปรบกวนภายนอก
  • ห้องทำงาน หลายคนต้องมาทำงานที่บ้านในช่วงโรคระบาด จำเป็นต้องใช้สมาธิในการทำงาน และอาจจะต้องเข้าร่วมการประชุมออนไลน์ ฉะนั้นห้องทำงานต้องไร้เสียงรบกวนจากภายนอก และไม่มีเสียงก้องเสียงสะท้อนทำให้การประชุมงานขาดประสิทธิภาพได้ ห้องทำงานสามารถติดตั้งฉนวนดูซับเสียงเพื่อลดเสียงสะท้อน และฉนวนป้องกันเสียง งานตกแต่งสามารถตกแต่งได้หลากหลายเพาะปัจจุบันมีหลายสีให้เลือกใช้เข้ากับไลฟ์สไตล์ของคุณ

 

บทความที่เกี่ยวข้อง

อยากมีห้องสตูดิโอส่วนตัว (Studio) ฟังทางนี้

Live increase sale พ่อค้าแม่ค้าอยาก Live สดขายของออนไลน์ให้ปังๆ รวยๆ

Specialist ปัญหาเสียงดังรบกวน แก้ได้ง่ายๆ จริงไหม? ไม่อยากถูกหลอกต้องรู้!

Acoustic problem อย่าปล่อยให้ปัญหาเสียงกัดกินความสุขของคุณ ปัญหาเหล่านี้จะจบไปทันทีโดยที่เราไม่จำเป็นต้องเถียงอะไรกับใครเลย เมื่อทำห้องที่บ้านสักห้องให้กลายเป็นห้องเก็บเสียง ซึ่งพอไม่มีปัญหาทะเลาะกับใคร ก็ทำให้คุณภาพชีวิตการอยู่อาศัยในบ้านของเราเป็นไปอย่างมีระดับและมีความสุขได้มากขึ้น การแก้ไขปัญหาเรื่องเสียงนั้น สิ่งสำคัญคือการเลือกใช้วัสดุกันเสียงที่มีประสิทธิภาพ ถูกต้อง เหมาะสมกับปัญหาเสียงที่เจอ เพราะหากเลือกใช้วัสดุผิดพลาด ก็จะทำให้การควบคุมเสียงไม่มีประสิทธิภาพ และทำให้เรายังคงต้องพบปัญหาเสียงกวนใจได้อยู่ เสียเงินเสียเวลาไปโดยเปล่าประโยชน์ การได้รับคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญด้านเสียงโดยตรง ถึงการแก้ไขปัญหาเสียง การออกแบบแนวทางการแก้ไข จึงเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด เพื่อให้เราสามารถใช้งบประมาณได้อย่างคุ้มค่า แก้ปัญหาได้จบ

Source : https://www.acousticexpert.co/,  https://www.dear.co.th/hearing-knowledge