Skylight หลังคาคลังสินค้า โรงงาน แบบไหนประหยัด เพิ่มกำไรให้ธุรกิจ
สร้างคลังสินค้า โกดัง โรงงาน การประหยัดพลังงานนั้นจำเป็นอย่างยิ่งเพราะช่วยเรื่องของการลดค่าใช้จ่ายในระยะยาว ซึ่งเป็นวัตถุประสงค์แรกๆ ที่เจ้าของโครงการให้ความสำคัญ เพราะสร้างคลังสินค้า โกดัง โรงงาน ต้องอยู่ไปอีก หลายสิบปี และจะประหยัดหลังงานจุดไหนได้บ้าง จริง ๆ แล้วมีหลายปัจจัยในการออกแบบสร้างคลังสินค้า โกดัง โรงงานแบบประหยัดพลังงาน แต่วันนี้เราจะพาท่านไปเจาะลึกเรื่องของหลังคาคลังสินค้า โกดัง โรงงาน ที่จะช่วยท่านประหยัดพลังงาน และส่งผลต่อการทำงาน และความปลอดภัยของทรัพย์สินและพนักงานของบริษัทโดยตรง หลังคาคลังสินค้า ถือได้ว่าเป็นส่วนสำคัญของอาคารที่ผู้ประกอบการควรให้ความใส่ใจในการเลือกใช้เป็นอย่างยิ่ง การให้ความสำคัญกับการประหยัดพลังงานก็เป็นสิ่งจำเป็นอาคารคลังสินค้า โกดัง โรงงานอุตสาหกรรมส่วนใหญ่จึงนิยมเลือกใช้ หลังคาโปร่งแสง ใช้แสงธรรมชาติเข้ามาช่วยในตอนกลางวัน ทำให้ประหยัดค่าใช้จ่ายได้มากในระยะยาว แล้วหลังคาโปร่งแสงมีคุณสมบัติอย่างไร การใช้งานมีปัญหาไหม การติดตั้งต้องคำนึงถึงเรื่องใด Skylight จะเพิ่มกำไรให้ธุรกิจของท่านอย่างไรบ้างมาติดตาม Skylight หลังคาคลังสินค้า โรงงาน แบบไหนประหยัด เพิ่มกำไรให้ธุรกิจ
แสงธรรมชาติ ประหยัดพลังงาน และเพิ่มกำไรให้ธุรกิจของคุณ
หลังคาที่แสงธรรมชาติสามารถผ่านได้ จึงทำให้ประหยัดไฟได้มากขึ้น คลังสินค้า โกดัง โรงงานอุตสาหกรรมที่ต้องทำงานตลอดเวลาทั้งกลางวันและกลางคืนนั้น ยิ่งมีขนาดใหญ่มากเท่าไร ก็ยิ่งต้องใช้แสงไฟเพื่อให้ความสว่างภายในโรงงานมากเท่านั้น ดังนั้นเอง แผ่นโปร่งแสงจึงเข้ามาช่วยตอบโจทย์ในการช่วยประหยัดค่าไฟได้มากขึ้น เนื่องจากเมื่อนำแผ่นโปร่งแสงไปใช้เป็นหลังคาโรงงาน จะทำให้มีแสงสว่างจากธรรมชาติส่องสว่างมากขึ้น ช่วยลดการเปิดไฟในช่วงเวลากลางวันได้เป็นอย่างดี ซึ่งในภาพรวมแล้วก็จะทำให้ต้นทุนในการผลิตนั้นลดลง และทำกำไรได้เพิ่มมากขึ้น นอกเหนือจากการให้ความสว่างสู่ตัวอาคารโดยไม่จำเป็นต้องเปิดไฟ เป็นการลดค่าใช้จ่ายให้กับตัวอาคารในระยะยาว และเป็นการลดการใช้พลังงาน ช่วยแก้ปัญหาโลกร้อน แผ่นโปร่งแสงที่ควรนำมาใช้ ควรมีคุณสมบัติในการป้องกันความร้อน เพื่อช่วยรักษาสภาพอากาศภายในโรงงานอุตสาหกรรม ให้ปลอดโปร่ง และเย็นสบายมากที่สุด และทำงานอย่างต่อเนื่องภายในโรงงานที่ไม่มีความร้อนและแสงสว่างทั่วถึง ทำให้สามารถงานได้อย่างราบรื่น และมีประสิทธิภาพ อีกทั้งการที่หลังคาโรงงานอุตสาหกรรมป้องกันความร้อนได้ดีนั้น ก็จะส่งผลให้เครื่องจักรไม่ร้อนเกินไป ซึ่งจะสามารถช่วยประหยัดไฟได้อีกทางหนึ่งด้วย แสงธรรมชาติยังมีคุณประโยชน์มากกว่า ที่คิด ซึ่งมีผลวิจัยออกมาว่าแสงธรรมชาติช่วยเพิ่มยอดขายให้กับร้านค้า และเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน
- การวิจัยจากคณะกรรมาธิการด้านพลังงานของแคลิฟอร์เนีย (California Energy Commissioni) มีผลสรุปออกมาว่าร้านค้าปลีกที่มีแสงธรรมชาติจะขายได้มากกว่าร้านค้าที่ไม่มีแสงธรรมชาติเข้ามาถึง 40% ลูกค้าประมาณ 85% ของการวิจัย กล่าวว่าร้านค้าที่มีแสงธรรมชาติเข้ามาให้ความรู้สึกสะอาดกว่าร้านใช้เพียงแสงจากหลอดไฟลูกค้าประมาณ 65% ของการวิจัย กล่าวว่าร้านค้าที่มีแสงธรรมชาติให้ความรู้สึกว่าเป็นร้านค้าที่ขนาดใหญ่กว่า เปิดโล่งและผ่อนคลายในการจับจ่ายใช้สอย
- ศาสตรจารย์ Alan Hedge ณ Cornell University โดยทำการวิจัยเรื่องแสงธรรมชาติในสภาพแวดล้อมการทำงาน โดยผลการวิจัยชี้ว่าการมีแสงธรรมชาติในอาคาร ทำให้ลดอาการปวดตา ปวดศีรษะ และตาพร่ามัวของพนักงาน ลดอาการง่วงนอน เพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน
และที่สำคัญอายุการใช้งานต้องยาวนาน มีความทนทานแข็งแรง อาคารโรงงานอุตสาหกรรม โกดัง และคลังสินค้านั้น ถือเป็นอาคารที่ภายในบรรจุทรัพย์สิน เครื่องจักร และสินค้าสำคัญที่มีมูลค่าเป็นจำนวนมาก ดังนั้น หลังคาของอาคารต่าง ๆ เหล่านี้ จึงควรมีความแข็งแรงทนทาน มีอายุการใช้งานที่ยาวนาน เพื่อให้สามารถปกป้อง และให้ความปลอดภัยแก่ทรัพย์สินต่าง ๆ ของโรงงานได้ อีกทั้งควรทนต่อทุกสภาพอากาศด้วย เพราะหลังคาคือส่วนที่ต้องเผชิญหน้ากับแดด ลม ฝน เสมอตลอดทั้งปีและทุกฤดูกาล ซึ่งการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศนั้น ส่งผลต่อสภาพความสมบูรณ์ของหลังคาโดยตรง
หลังคาโปร่งแสงควรเลือกอย่างไร
หลังคาโปร่งแสง หรือ หลังคาสกายไลท์ (Skylight) มีลักษณะโปร่งใสได้รับความนิยมในการติดตั้งกับอาคารโรงงาน คลังสินค้า ซุปเปอร์มาเก็ตขนาดใหญ่อย่างแพร่หลายในปัจจุบัน เพื่อให้แสงธรรมชาติสามารถส่องสว่างเข้ามาภายในอาคารได้ในระหว่างวัน พร้อมทั้งช่วยในการประหยัดพลังงานและลดค่าใช้จ่ายได้ในเวลาเดียวกัน โดยการเลือกใช้งานความคำนึงถึงเรื่องของความหนา และการกระจายตัวของเส้นใยไฟเบอร์ต้องสม่ำเสมอทั่วแผ่น เส้นใยที่กระจายไม่ทั่วแผ่นจะทำให้แผ่นแตกเสียหายได้ง่าย และการซ้อนทับต้องแนบสนิทกับ Metal Sheet แผ่นหลังคาโปร่งแสงที่ผลิตจากเครื่องจักรไม่ได้มาตรฐาน ไม่สามารถควบคุมคุณภาพการผลิตให้คงที่จะเกิดปัญหาการรั่วซึมเมื่อนำไปใช้งาน หลังคาโปร่งแสงต้องมีชั้นเคลือบด้านบนและด้านล่าง ด้วยฟิล์มคุณภาพสูง หากเกิดการหลุดลอกของชั้นเคลือบจากเทคโนโลยีการผลิตที่ไม่ได้คุณภาพ ทำให้เกิดการสะสมของคราบสกปรกบนผลิตภัณฑ์ได้ง่าย รวมทั้งเส้นใยไฟเบอร์กลาสหลุดร่วงเร็วกว่าอายุการรับประกัน โดยสามารถตรวจสอบที่มาของแผ่นได้หลังจากผ่านการใช้งาน การตรวจสอบรุ่นผลิตภัณฑ์หลังการติดตั้งทำได้ยากกับแผ่นหลังคาโปร่งแสงที่ไม่ได้มาตรฐานที่ไม่ระบุรายละเอียดไว้ เมื่อเกิดปัญหาไม่สามารถสืบค้นข้อมูลได้ แผ่นโปร่งแสงคุณภาพดีต้องมีอิงค์เจทระบุวันเดือนปีที่ผลิต ชื่อรุ่น และผู้ผลิตที่ชัดเจน และที่สำคัญต้องไม่กล่าวอ้างข้อมูลผลิตภัณฑ์ที่เกินจริงและไม่เป็นไปตามที่ให้ข้อมูลแก่ลูกค้า หรือให้ข้อมูลคลุมเครือในการให้ข้อมูลที่มาของวัตถุดิบ ดังนั้นผลิตภัณฑ์ที่ดีควรมีการตรวจสอบอย่างเป็นระบบ และผ่านการรับรองมาตรฐานโดยหน่วยงานภายนอกที่น่าเชื่อถือ และมีเอกสารรับรองเป็นลายลักษณ์อักษร
ปัญหาหลังคาโปร่งแสงพลิ้วเป็นคลื่นจากการติดตั้ง
วัสดุก่อสร้างส่วนใหญ่เกิดการขยายตัวเมื่อได้รับความร้อน อย่างเช่น ไม้ คอนกรีต เหล็ก โดยเฉพาะส่วนที่รับความร้อนจากแสงแดดเป็นระยะเวลายาวนานตลอดวัน เมื่อวัสดุต่างชนิดกันนำมาใช้ร่วมกันต้องจัดทำช่องว่างระหว่างรอยต่อของวัสดุไว้เพื่อรองรับการขยายหรือหดตัวของวัสดุ ปัจจุบันหลังคา Metal Sheet ได้รับความนิยมมากขึ้น ทั้งโรงงาน โกดัง และบ้านพักอาศัย การออกแบบหลังคามักมีหลังคาโปร่งแสงไฟเบอร์กลาสเป็นช่องแสงด้วย โดยหลังคาเหล็กและหลังคาโปร่งแสงไฟเบอร์กลาสมีการขยายตัวเมื่อได้รับความร้อนต่างกัน แผ่นเมทัลชีทยาว 10 เมตร อุณหภูมิเพิ่มขึ้น 1 องศาเซลเซียส แผ่นจะยาวขึ้นประมาณ 0.114 มม. ส่วนหลังคาไฟเบอร์กลาส จะยาวขึ้นประมาณ 0.3 มม. “แผ่นพลิ้วเป็นคลื่น” ของหลังคาโปร่งแสง ปัญหาที่เกิดจากการไม่คว้านรูสกรูก่อนติดตั้งทำให้แผ่นหลังคาโปร่งแสงไฟเบอร์กลาส โก่งตัว เมื่อได้รับความร้อน แสดงให้เห็นว่า หลังคาโปร่งแสง (FRP) มีการขยายตัวมากกว่าหลังคาเมทัลชีท (Metal Sheet) ถึง 2.63 เท่า เพื่อป้องกันการเกิดปัญหาการขยายตัวของแผ่นหลังคาโปร่งแสงเมื่อโดนความร้อนจนทำให้แผ่นพลิ้วเป็นคลื่น และเกิดการรั่วซึมของหลังคา ควรให้ความสำคัญในเรื่อง
- การคว้านรูสกรูให้มีขนาดที่เหมาะสม จากการทดสอบใช้งานจริงตัวอย่าง แผ่นหลังคาโปร่งแสง ความยาว 15 m. ใช้สกรูเบอร์ 12 ( ขนาดแกนสกรูเท่ากับ 5 mm.)
- ควรติดตั้งร่วมกับแหวนหมวกยาง เพื่อป้องกันน้ำซึมจากการคว้านรูสกรู
- หากมีความต้องการใช้แผ่นยาวกว่า 15 เมตร แนะนำให้มีการต่อแผ่นหลังคาโปร่งแสง(เนื่องจากแผ่นยาวกว่า 15 เมตรถ้าใช้เป็นแผ่นเดียวจำเป็นต้องต้องคว้านรูขนาดใหญ่มีความเสี่ยงต่อการเกิดการรั่วซึม) โดยรอยต่อต้องอยู่บนแปหรือเคร่า และควรมีระยะซ้อนทับไม่น้อยกว่า 30 เซนติเมตร
หลังคาโรงงานและคลังสินค้าติดตั้งฉนวนกันความร้อน ช่วยประหยัดพลังงาน
- ป้องกันความร้อนได้ดีเข้าสู่ตัวอาคารได้อย่างดี ฉนวน PU Foam หลังคาเมทัลชีท ตัวฉนวนกันความร้อนแบบ PU Foam จะสามารถป้องกันความร้อนได้สูงถึง 90 เปอร์เซ็นต์และยังช่วยลดการกระจายความร้อนของตัวหลังคาไปสู่บรรยากาศภายในอาคาร จึงทำให้อากาศภายในตัวโรงงานอุตสาหกรรม คลังสินค้า โกดัง ยังคงมีความเย็นสบาย พร้อมช่วยลดภาระเรื่องค่าไฟที่เกิดจากความร้อนสูงจนทำให้ต้องใช้งานเครื่องปรับอากาศหรือพัดลมตัวใหญ่ที่มากขึ้น นอกจากนี้ฉนวน PU Foam โรงงานหรือโกดังเก็บสินค้าจะสามารถกรองความร้อนและรังสี UV ไม่ให้เข้ามาภายในอาคารได้หรือเข้ามาได้น้อยที่สุด จะส่งผลให้อุณหภูมิภายในโกดังไม่ร้อนและไม่ส่งผลทำให้เครื่องจักรภายในโรงงานจะไม่ได้รับความเสียหายอีกด้วย
- ลดเสียงและป้องกันการรั่วซึม จะช่วยลดเสียงดังของสิ่งที่มากระแทกกับหลังคาหรือเสียงฝนตกได้เป็นอย่างดี เพราะฉนวน PU Foam เป็นวัสดุที่ช่วยดูดซับเสียง อีกทั้งยังช่วยในเรื่องป้องกันการรั่วซึมของน้ำฝนได้ดีอีกด้วย ฉนวนหลังคาชนิดนี้จึงเป็นที่นิยมอย่างมากในการใช้กับโรงงานอุตสาหกรรม โกดัง คลังสินค้า และอาคารต่าง ๆ
- ทนทานกว่าหลังคาทั่วไป สำหรับหลังคาคลังสินค้าและโรงงานมีคุณสมบัติในการป้องกันความชื้นจากอากาศได้ดี เพราะเป็นลักษณะของฉนวนแบบเซลล์ปิดที่จะยึดเกาะกับตัววัสดุที่เป็นหลังคา ไม่เกิดเป็นรอยต่อ จึงเป็นเนื้อเดียวกันทั้งหมด ไม่มีโพรงอากาศและไม่เกิดความชื้น ทำให้การใช้งานมีความทนทานสูง ไม่เสี่ยงต่อการสึกกร่อนหรือการเกิดสนิม
- ไม่เป็นเชื้อไฟ ไม่ติดไฟง่าย มีคุณสมบัติพิเศษที่ไม่ติดไฟได้ง่าย เมื่อเกิดปัญหาเรื่องไฟไหม้ ไฟจะไม่ลุกลามไปที่ตัวฉนวนจึงหยุดการเผาไหม้ได้ดี ซึ่งเหมาะอย่างยิ่งกับการนำมาใช้ในโรงงานและคลังสินค้า ซึ่งอาจจะมีความเสี่ยงในการเกิดอัคคีภัยได้มากกว่าอาคารอื่น ๆโดยทั่วไป
Skylight หลังคาคลังสินค้า โรงงาน แบบไหนประหยัด เพิ่มกำไรให้ธุรกิจ งานหลังคาเป็นองค์ประกอบที่สำคัญของคลังสินค้า โกดัง โรงงานอย่างยิ่ง การเลือกใช้วัสดุแบบไหน ขึ้นอยู่ที่งบประมาณเป็นสำคัญและควรปรึกษากับผู้ออกแบบและเลือก วัสดุที่เหมาะสมกับรูปแบบอาคารมากที่สุด คำนึงถึงการใช้งานของผู้ใช้งานเป็นสำคัญ วัสดุต้องคงทน และประหยัดพลังงาน ลดค่าใช้จ่ายได้ในระยะยาว และไม่เกิดปัญหาในการใช้งานตามมาในภายหลัง การสร้างคลังสินค้า โกดัง โณงาน จึงจำเป็นต้องปรึกษาผู้เชี่ยวชาญในการก่อสร้าง มีวิศวกรควบคุมโครงการที่มีความน่าเชื่อถือ รวมไปถึงผู้รับเหมาที่มีความเชี่ยวชาญในการติดตั้งหลังคา ทุกขั้นตอนล้วนมีความสำคัญไม่ควรมองข้าม เพื่อให้คลังสินค้าโกดัง แล้วเสร็จใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ อ่านบทความเพิ่มเติมเกี่ยวกับคลังสินค้า : คุยกับสถาปนิค – 10 เทคนิควางแผนสร้างคลังสินค้า บริหารใช้งานเต็มประสิทธิภาพ
[…] […]