ตอบทุกคำถาม จัดเต็มเรื่อง BOQ
BOQ ใช้ทำอะไรทำไมคุณเป็นเจ้าของโครงการอยากจะก่อสร้าง อาคาร คลังสินค้า โรงงานต้องเข้าใจ BOQ ใช้ในการควบคุมงบประมาณการก่อสร้าง BOQ ทำให้คุณมองเห็นภาพการทำงาน BOQ ใช้สรุปต้นทุน ค่าใช้จ่ายของโครงการ ใช้ในการประเมินกำไรเบื้องต้น BOQ เป็นเอกสารอ้างอิง กรณีเกิดงานเพิ่ม – งานลด และ BOQ ใช้ตรวจสอบมาตรฐานการทำงานของโครงการ ว่าตรงตามสัญญาก่อสร้างหรือไม่ ความโปร่งใส จริงใจ ความซื่อสัตย์นั้นเป็นคุณสมบัติหนึ่งของการเป็นผู้รับเหมาก่อสร้างที่ดี และสิ่งที่ผู้รับเหมาจะแสดงให้ผู้ว่าจ้างเห็นถึงความจริงใจได้ คือ การอธิบายอย่างละเอียดถึงปริมาณการใช้วัสดุ ค่าใช้จ่ายที่ใช้ และค่าแรงที่ผู้ว่าจ้างต้องจ่ายในการก่อสร้าง ไม่ว่าจะเป็นงานก่อสร้างขนาดใหญ่หรือเล็กก็ตาม ซึ่งเอกสารนี้เรียกว่า BOQ จริง ๆ แล้ว BOQ คืออะไร มีความสำคัญกับคุณแค่ไหน และคำนวณอย่างไร คำตอบของทุกคำถามอยู่ที่นี่แล้ว ตอบทุกคำถาม จัดเต็มเรื่อง BOQ
BOQ คืออะไร?
BOQ ย่อมาจาก Bill of Quantities อธิบายสั้น ๆ คือเอกสารแสดงราคากลางในการก่อสร้าง ที่ใช้ในขั้นตอนการหาผู้รับเหมาก่อนก่อสร้างอาคาร โดยมีรายละเอียดรายการที่แสดงปริมาณงาน และราคาวัสดุก่อสร้างที่ถอดมาจากแบบก่อสร้างทั้งหมด ทั้งจากแบบสถาปัตยกรรม แบบวิศวกรรมโครงสร้าง และแบบวิศวกรรมระบบ ว่า จะใช้วัสดุอะไร ปริมาณเท่าไร ราคากี่บาท และค่าแรงในการจัดการวัสดุนั้น ๆ มีราคาเท่าไร ผู้จัดทำ BOQ หรือที่นิยมเรียกกันว่า ถอดรายการ BOQ แบ่งได้เป็นสองแบบดังนี้
- แบบที่ 1 กรณีที่เจ้าของอาคารเป็นผู้ยื่นเอกสารBOQ เอง อาจจะให้สถาปนิกทำให้หรือแล้วแต่ข้อตกลงร่วมกัน ซึ่งเอกสาร BOQ เป็นราคากลางที่ให้เจ้าของอาคารเปรียบเทียบกับราคาของผู้รับเหมาแต่ละเจ้าว่าต่างกันมากน้อยแค่ไหน และยังใช้ในการต่อรองราคาเพิ่มเติม เพื่อให้ได้ราคาก่อสร้างที่พึงพอใจกันทั้งสองฝ่ายได้
- แบบที่ 2กรณีที่ผู้รับเหมาเป็นผู้ทำเอกสาร BOQ จะระบุค่าใช้จ่ายและใช้เป็นเอกสารแนบท้ายสัญญาในการก่อสร้างกับเจ้าของอาคาร เพื่อลดความขัดแย้งระหว่างผู้รับเหมาและเจ้าของระหว่างการก่อสร้าง ในกรณีที่มีการเพิ่มหรือลดวัสดุนอกเหนือจากในแบบก่อสร้าง
หมวดหมู่ของ BOQ มีอะไรบ้าง
ปกติแล้วเอกสาร BOQ มักจะมีหมวดหมู่และสัญลักษณ์ที่คล้ายคลึงกัน แต่รายละเอียดจะแตกต่างกันไปตามการก่อสร้างของอาคารนั้น ๆ ประกอบไปด้วย
- หมวดงานโครงสร้าง: งานเสาเข็มและฐานราก, งานคอนกรีตและแบบหล่อ, งานเหล็กเสริม, งานแผ่นพื้นสำเร็จรูป, งานเหล็กรูปพรรณ
- หมวดงานสถาปัตย์ : งานหลังคาและวัสดุมุง, งานผนังก่อและฉาบ, งานฝ้าเพดาน, งานผิวตกแต่งพื้นและผนัง, งานสุขภัณฑ์, งานประตูหน้าต่าง, งานสี
- หมวดงานระบบ : งานไฟฟ้า, งานประปา, งานสุขาภิบาลและระบายน้ำ
- ค่าดำเนินการก่อสร้าง และส่วนของกำไร
ถ้าไม่ทำ BOQ ได้มั้ย?
ในบางกรณี อาจละเว้น ไม่ทำ BOQ ก็ได้ หากเป็นงานก่อสร้างสิ่งปลูกสร้างง่ายๆ ไม่ซับซ้อน ใช้วัสดุไม่หลากหลาย มีขั้นตอนชัดเจน ในการทำงาน ตัวอย่างเช่น งานว่าจ้างเทพื้นคอนกรีต งานปูกระเบื้องลานจอดรถ เราอาจจะมีการระบุชนิดวัสดุ และสเป็ค ในแบบชัดเจนอยู่แล้ว ทำให้ช่างหรือผู้รับเหมา สามารถประเมินราคาได้เลย
.
ใครควรเป็นคนจ่ายค่าทำ BOQ?
โดยปกติ เจ้าของโครงการ ถ้าอยากจะรู้ปริมาณของและปริมาณงานทั้งหมด อาจจะว่าจ้างให้คนที่มีความชำนาญ ทำการถอด BOQ ซึ่งเป็นค่าใช้จ่าย ที่ต้องจ่ายต่างหากเพิ่มจากค่าออกแบบบ้าน อย่างไรก็ตาม สถาปนิกผู้ออกแบบอาจจะเสนอ งานคำนวณ BOQ รวมกับงานส่วนออกแบบเลยก็ได้ โดยสถาปนิกทั่วไป จะไม่ชำนาญในการคิด BOQ เลยอาจจะไปจ้างคนอื่น
ทำ BOQ ให้ หลังจากแบบบ้านเสร็จสมบูรณ์แล้ว แต่กรณี เมื่อรวมงานคิด BOQ เข้าไปแล้ว ทำให้อัตราค่าจ้างสูงเกินกว่าที่เจ้าของบ้านเตรียมไว้ ทางสถาปนิกก็อาจจะไม่เสนองานในส่วนนี้รวมเข้าไว้ตั้งแต่แรก ดังนั้น ทางเจ้าของบ้าน ก็อาจต้องเป็นฝ่ายหาคนมาถอด BOQ เอง
BOQ ให้ใครทำก็ได้ ใช่มั้ย ?
การทำ BOQ เป็นงานที่มีความสำคัญมาก จำเป็นต้องทำให้รอบคอบ และมีความถูกต้องแม่นยำ เพราะทำให้เจ้าของบ้าน สามารถสรุปราคา กับผู้รับเหมา ได้ในราคาที่สมเหตุสมผล ทำให้เกิดความเป็นธรรมทั้ง 2 ฝ่าย ดังนั้น ผู้ถอด BOQ ต้องมีประสบการณ์ และมีความเข้าใจถึงลักษณะ ความยากง่ายของ หน้างานจริง รวมถึงขั้นตอน กระบวนการทำงานก่อสร้างของผู้รับเหมาด้วย BOQ ที่ได้จากสถาปนิกผู้ออกแบบบ้าน บางครั้งจะถูกเรียกว่า BOQ กลาง เพื่อนำไปใช้เป็นมาตรฐานในการว่าจ้างผู้รับเหมาในการสร้างบ้าน แต่หลาย ๆ ครั้ง BOQ กลางก็มีปัญหา เนื่องจากราคางานก่อสร้างบางประเภทที่ถูกระบุมา
ใน BOQ ไม่สะท้อนความเป็นจริง ทั้งราคาค่าของ และค่าแรง เนื่องจาก คนถอด BOQ อาจจะขาดประสบการณ์หน้างานจริง และไม่ได้คำนึงถึงปัจจัยต่างๆ ที่ทำให้ราคาค่าก่อสร้างถูกหรือแพงต่างกัน ฉะนั้นต้องเป็นผู้มีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน
การคิดค่าบริการ ถอด BOQ ?
การคิดค่าทำ BOQ อาจมาในรูปแบบ ของการ คิดราคาแบบเหมา โดยอ้างอิงจาก พื้นที่ใช้สอยของบ้าน อาคาร
ตัวอย่าง เช่น บ้านพักอาศัย 2 ชั้น พื้นที่ไม่เกิน 200 ตรม. ราคา x,xxx บาท พื้นที่เกิน 200 ตรม. ราคา x,xxx บาท
พื้นที่มากกว่า 300 ตรม. ตกลงราคาเป็นกรณีไป หรืออีกวิธี อาจจะคิดราคาต่อตร.ม.ไปเลย เช่น คิดตร.ม. ละ 3 บาท หรือ 5 บาท เป็นต้น (ราคานี้ ใช้สำหรับอธิบายให้เห็นภาพง่ายขึ้นเท่านั้น)
ตัวอย่างเอกสารรายการประเมินราคา BOQ พอสังเขป Credit Photo By dotproperty
ผู้รับเหมา กับ การคิด BOQ ?
โดยทั่วไป เมื่อได้ BOQ กลาง แล้ว เจ้าของบ้าน ก็จะส่งแบบเพื่อให้ผู้รับเหมาทำการคิด BOQ เพื่อนำมาใช้เปรียบเทียบกับ BOQ กลางของตัวเอง (BOQ กลาง คือ BOQ ที่เกิดจากการประเมินอย่างคร่าวๆ ใช้ราคาทั่วไป กลางๆ เป็นตัวชี้วัด ซึ่งจากประสบการณ์ส่วนตัวหลายครั้ง การคำนวณสเป็ควัสดุ และราคามีข้อผิดพลาด ไม่สะท้อนความเป็นจริง) ผู้รับเหมาที่มีประสบการณ์ และมีทีมวิศวกร ก็จะมีการทำ BOQ ของตัวเอง เพื่อประกอบการคิดคำนวณ และสะท้อนต้นทุนการก่อสร้างที่แท้จริง ซึ่งช่วยป้องกันข้อผิดพลาดและความเสียหายที่จะเกิดขึ้น โดยหากใช้ ราคาที่ไม่สามารถทำงานได้จริง ก็มีความเสี่ยง
กับภาวะการขาดทุนได้เช่นกัน อย่างไรก็ตาม ผู้รับเหมาบางราย ก็ไม่อยากทำ BOQ เพราะการทำ BOQ ออกมานั้น มีค่าใช้จ่ายในการทำ และมีรายละเอียดค่อนข้างสูง ทำให้เสียเวลามากในการทำ และในหลายๆ ครั้ง เมื่อทำเสร็จแล้ว ก็อาจไม่ได้รับการจ้างงาน หรือบางรายอาจใช้วิธีสรุปราคาค่าก่อสร้างให้เห็นราคาเป็นต่อตารางเมตรแทน โดยไม่ได้ระบุรายละเอียดให้เจ้าของบ้านทราบ
BOQ สำคัญอย่างไร
- ใช้ BOQ ในการยื่นขอสินเชื่อกับธนาคารได้ สำหรับผู้ที่วางแผนกู้เงินเพื่อสร้างบ้าน สร้างอาคาร คุณสามารถยื่นใบเสนอราคา BOQ งานก่อสร้างจากผู้ออกแบบหรือผู้รับเหมาก่อสร้างให้แก่ธนาคารเพื่อใช้ประกอบการพิจารณาอนุมัติสินเชื่อได้ โดยธนาคารจะพิจารณาว่าวงเงินที่คุณขอกู้นั้นสอดคล้องกับ BOQ งานก่อสร้างที่ระบุไว้หรือไม่ ซึ่งจะช่วยให้การขอกู้เงินสร้างบ้านราบรื่นยิ่งขึ้น
- ใช้ BOQ ในการเปรียบเทียบราคากลางได้ ในกรณี BOQ ที่มาจากผู้ออกแบบบ้าน พวกเขามักจะใส่ราคาวัสดุคร่าว ๆ เพื่อคำนวณงบประมาณการก่อสร้างไว้ให้คุณแล้ว คุณสามารถใช้เอกสารนี้เป็นราคากลาง BOQ สำหรับเปรียบเทียบกับ BOQ ของผู้รับเหมาอื่น ๆ ที่เสนอมาได้ ซึ่งจะจึงทำให้เห็นภาพว่าผู้รับเหมารายใดให้ราคาที่เหมาะสมที่สุด
- ใช้ BOQ ในการตรวจงานและมาตรฐานวัสดุได้ BOQ ก็เปรียบเสมือนรายการตรวจเช็กสำเร็จรูปที่คุณไม่ต้องนั่งคิดเอาเองว่าจะต้องเช็กอะไร คุณสามารถใช้ตรวจวัสดุต่าง ๆ ได้ว่าถูกต้องตามรายการที่ระบุไว้หรือไม่ มีวัสดุหรืองานใดที่ขาดตกบกพร่องไปหรือไม่ ซึ่ง BOQ สามารถตรวจสอบการทำงานของผู้รับเหมาได้ทั้งในระหว่างก่อสร้างและในเวลาตรวจรับงานก่อนส่งมอบ
- ข้อมูลอ้างอิงสำหรับงานเปลี่ยนแปลง (งานเพิ่ม-ลด) ประโยชน์ข้อต่อไปของBOQ คือ ในการก่อสร้างแต่ละโครงการนั้น หากมีงานเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นไม่ว่าจะงานเพิ่มหรืองานลด เราสามารถใช้ปริมาณและราคาต่อหน่วยใน BOQ เป็นข้อมูลอ้างอิงในการคำนวณปริมาณและราคางานเพิ่ม-ลดที่เหมาะสมได้
- ช่วยวางแผนและบริหารงานจัดซื้อ เราสามารถใช้ข้อมูลปริมาณวัสดุในBOQ ประกอบกับข้อมูลจากแผนงานก่อสร้างหลัก เพื่อวางแผนและบริหารงานจัดซื้อวัสดุก่อสร้างสำหรับโครงการนั้นๆ ในกรณีที่เจ้าของโครงการจัดซื้อวัสดุก่อสร้างบางส่วน หรือในทางเดียวกันสามารถใช้ข้อมูลข้างต้นในการประเมินวัสดุที่เข้าหน้างานของผู้รับเหมาได้เช่นกัน
การคำนวณใบเสนอราคา BOQ ในงานก่อสร้างทำอย่างไร
คำนวณ BOQ อย่างไร โดยปกติแล้วผู้ออกแบบอาคาร คลังสินค้า โรงงาน หรือผู้รับเหมาก่อสร้างต้องคิดคำนวณ BOQ ให้คุณ แต่ถ้าเป็นงานเล็ก ๆ จากผู้รับเหมารายย่อยที่ยังไม่รู้ว่า BOQ คืออะไร หรือถ้าคุณต้องการคำนวณค่าใช้จ่ายเองเพื่อมอบหมายให้ผู้รับเหมาเสนอค่าแรงหรือตรวจเช็กความสอดคล้องกับ BOQ ของผู้รับเหมา เราก็มีขั้นตอนการคำนวณ BOQ คร่าว ๆ มาให้คุณทำเองได้ดังนี้
- จัดหมวดหมู่งาน การจัดหมวดหมู่งานเป็นสิ่งแรกที่ต้องทำเพื่อแยกประเภทงานก่อสร้างทั้งหมดออกเป็นกลุ่ม เช่น ถ้าคุณจะสร้างบ้านสักหลังก็ต้องมีงานเตรียมพื้นที่ งานพื้นผิว งานโครงสร้าง งานหลังคา งานฝ้าเพดาน งานผนัง งานประตูหน้าต่าง งานทาสี งานไฟฟ้า งานประปา งานสุขภัณฑ์ งานตกแต่งภายใน และงานตกแต่งภายนอก ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับว่าคุณจะทำอะไรบ้าง หรือถ้าเป็นการปรับปรุงห้องน้ำก็อาจมีแค่งานปูพื้นและงานสุขภัณฑ์แค่ 2 กลุ่ม เป็นต้น
- วัดขนาดพื้นที่ ควรใช้หน่วยเมตรและตารางเมตรเป็นหลักในการวัดพื้นที่ เพราะเป็นหน่วยมาตรฐานที่ใช้ซื้อขายวัสดุก่อสร้าง เช่น พื้นที่วัดได้ 135 ตารางเมตร คุณก็ระบุใน BOQ ได้ว่า ต้องใช้กระเบื้องปูพื้นประมาณ 135 ตารางเมตร หรือในพื้นที่ 2 ชั้นที่ต้องการเดินสายไฟให้ครบทุกห้อง และวัดความยาวได้ประมาณ 300 เมตร คุณก็ต้องใช้สายไฟม้วน 50 เมตร จำนวน 6 ม้วน เป็นต้น
- สำรวจราคา เราขอแนะนำให้คุณสำรวจราคาในร้านจำหน่ายวัสดุก่อสร้างขนาดใหญ่ เพราะร้านค้าเหล่านั้นมักจะมีบริการทำใบเสนอราคาตามรายการที่คุณต้องการโดยไม่ต้องเสียเวลาเช็กราคาเอง แต่ถ้าคุณไม่สะดวกหรือไม่มีเวลาเดินทาง คุณสามารถพึ่งพาร้านขายวัสดุก่อสร้างบนอินเทอร์เน็ตในการค้นหาราคาวัสดุที่ต้องการได้อย่างง่ายดายเพียงไม่กี่คลิก
- เคาะราคาที่ต้องจ่าย คุณสามารถคิดค่าวัสดุที่ต้องใช้ได้ง่าย ๆ ด้วยการนำ ปริมาณวัสดุ x ราคาต่อหน่วย = ราคาวัสดุที่ต้องใช้ ส่วนค่าแรงนั้นจะคิดยากกว่าพอสมควรเนื่องจากผู้รับเหมาแต่ละรายคิดค่าแรงไม่เท่ากันและไม่มีมาตรฐานตายตัว แต่คุณก็สามารถคาดคะเนได้คร่าว ๆ ดังนี้
- งานขนาดเล็กหรืองานง่ายให้ใช้แบบราคาไม่เกิน 50 บาทต่อหน่วย
- งานขนาดปานกลางหรืองานทั่วไปให้ใช้แบบราคาไม่เกิน 120 บาทต่อหน่วย
- งานขนาดใหญ่หรืองานยากให้ใช้แบบราคาไม่เกิน 500–1,000 บาทต่อหน่วย
ตอบทุกคำถาม จัดเต็มเรื่อง BOQ แม้ว่าคุณจะไม่มีความรู้ความเชี่ยวชาญในงานก่อสร้าง แต่ด้วยการคำนวณแบบนี้ คุณก็จะทราบค่าแรงโดยประมาณ และสามารถนำมารวมกับราคาวัสดุเพื่อหาจำนวนเงินทั้งหมดที่ต้องจ่ายในเบื้องต้นสำหรับงานก่อสร้างได้ อย่างไรก็ดี ราคา BOQ งานก่อสร้างที่เห็นนั้นไม่ได้หมายความว่าจะเป็นราคาสุทธิที่คุณต้องจ่ายเสมอไป เพราะในระหว่างการก่อสร้างอาจมีปัจจัยอื่น ๆ ที่ทำให้ค่าใช้จ่ายจริงแตกต่างจากเอกสารได้ เช่น การเปลี่ยนแปลงวัสดุ (โดยตกลงกันแล้ว) และการแก้ไขงานเมื่อพบอุปสรรคในระหว่างก่อสร้าง นอกจากนี้ การตรวจสอบความคืบหน้าและการตรวจรับงานในแต่ละช่วงโดยยึดตามรายการวัสดุใน BOQ ยังช่วยควบคุมค่าใช้จ่ายในการก่อสร้างไปในตัว ทำให้ได้อาคาร คลังสินค้า โรงงานที่ใกล้เคียงกับสเปกที่ต้องการมากที่สุดตามรายการใน BOQ ที่ตกลงกันไว้ และป้องกันการถูกโกงค่าวัสดุก่อสร้างอีกด้วย ทำให้คุณคุยงานกับผู้รับเหมาได้ง่ายมากยิ่งขึ้น BOQ เป็นตัวช่วยสำคัญ ที่ช่วยลดปัญหาระหว่างลูกค้าและผู้รับเหมา ในเรื่องของการหาราคากลางสำหรับค่าก่อสร้างที่เหมาะสมก่อนการเซ็นสัญญาก่อสร้างอาคาร คลังสินค้า โรงงาน และที่สำคัญต้องเลือกผู้รับเหมาที่มีความเชี่ยวชาญ มีทีมงานที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน มีความน่าเชื่อถือ ผลงานการันตี หมดปัญหาทิ้งงาน ส่งมอบงานล่าช้า
บทความที่น่าสนใจ :
Material cost อัพเดตราคาเหล็กและวัสดุก่อสร้าง รู้ก่อนคุมงบก่อน
Warehousing cost บริหารคลังสินค้า โกดังยังไงให้ลดต้นทุน
Build an apartment ลงทุนธุรกิจอพาร์ทเม้นท์ อยากเป็นเสือนอนกินต้องทำไง